ถึงกระนั้นก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในประเทศหลักๆ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ราคาที่สูง และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญในปีหน้า ตลาดส่งออกหลักของประเทศไทยคาดว่าจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2566 การคาดการณ์ล่าสุดของ IMF แสดงให้เห็นว่าการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ของไทยชะลอตัวลงอย่างมาก โดยรวมแล้ว ผลกระทบจากโควิด-19 อาจทำให้บริษัทในประเทศไทยต้องแสวงหาสภาพคล่องระยะสั้นมูลค่า 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นประมาณ 10% ของ GDP (รูปที่ 16) การประมาณการนี้ขึ้นอยู่กับการขาดแคลนทั้งหมดในจำนวนเงินที่บริษัทเหล่านี้กำหนดให้ชำระหนี้สินภายในหนึ่งปีข้างหน้า หากไม่มีการปรับโครงสร้างหนี้และธุรกิจ บริษัทต่างๆ ในกลุ่มค้าส่งและค้าปลีกจะต้องใช้เงินเกือบ 2 แสนล้านบาทในการชำระหนี้สินระยะสั้น ในขณะเดียวกัน ภาคโรงแรม การขนส่งทางอากาศ และร้านอาหาร ซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุด จะต้องใช้เงิน 30,000-50,000 ล้านบาทเพื่อความอยู่รอด โดยรวมแล้วเกือบ 60% ของบริษัทที่ประสบปัญหาจะต้องการเงินมากกว่า 1.0 ล้านบาทต่อบริษัท การนำเข้าพลังงานที่มีราคาแพงจะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจในปีนี้เช่นเดียวกับปีที่แล้ว แต่เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคไม่น่าจะแบกรับน้ำหนักได้ และการส่งออกบริการผ่านการท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นบางส่วนแต่ไม่ใช่ทั้งหมดจากช่วงก่อนการระบาด จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้องจับตาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับการส่งออกในปีนี้ ระดับการส่งออกสินค้าเพื่อการค้าฟื้นตัวหรืออ่อนตัวลงต่อไปจะเป็นตัวกำหนดว่าเศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไรในปี 2566 การตอบสนองทางการคลังของประเทศไทยต่อโรคโควิด-19 […]
Read More